ในปัจจุบันมีผู้รับสร้างบ้านตามแบบเกิดขึ้นจำนวนไม่น้อย ทำให้เรามีตัวเลือกเพิ่มมากขึ้น แต่จะมีวิธีการในการเลือกอย่างไรไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือเจอแจ็กพอต เจอช่างสร้างบ้านที่ไม่ได้คุณภาพ เทงาน สร้างบ้านไม่ได้มาตรฐาน ราคาสูง งบบานปลาย แต่เรื่องทั้งหมดนี้สามารถป้องกันได้ตั้งแต่เริ่มต้น มีการเลือกเฟ้นบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีและมีคุณภาพในราคาที่เหมาะสม ที่รับรองว่ารับมือเรื่องปวดหัวในการหาผู้รับเหมาได้อย่างแน่นอน ซึ่งมีวิธีดังนี้
4 วิธีเลือกบริษัทรับสร้างบ้านตามแบบ ขั้นตอนเลือกบริษัทรับสร้างบ้านให้ไม่พลาด
1. ตรวจประวัติและดูผลงาน
เริ่มต้นจากการค้นหาและคัดเลือกบริษัทหรือผู้รับเหมาสร้างบ้านที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ ซึ่งทำได้ไม่ยากกับการค้นประวัติและดูผลงานการก่อสร้างที่ผ่านมา ไม่ว่าจะในอินเทอร์เน็ต หรือ การสอบถามจากเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงที่เคยใช้บริการ เมื่อได้รายชื่อและข้อมูลคร่าว ๆ แล้วก็เริ่มนัดพูดคุยรายละเอียดกับผู้รับเหมาหรือบริษัทที่น่าสนใจและคัดเลือกเหลือเพียงบริษัทหรือผู้รับเหมาที่ตอบโจทย์ได้
2. ขอใบเสนอราคาก่อสร้าง
หลังจากหาผู้รับเหมาหรือบริษัทที่สนใจได้แล้ว สิ่งที่ต้องทำต่อมาคือแจ้งรายละเอียดการก่อสร้าง และขอใบเสนอราคา เพื่อให้ทราบมูลค่าการก่อสร้าง แล้วนำใบเสนอราคาทั้งหมดมาเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจ เพื่อจะได้เห็นมาตรฐานและราคาที่เหมาะสม
3. ต้องมีสัญญาจ้างที่ชัดเจน
เมื่อถึงขั้นตอนการทำสัญญาจ้างควรทำเป็นลายลักษณ์อักษร ห้ามตกลงงานกันปากเปล่าเด็ดขาด ในสัญญาควรที่จะต้องมีการระบุถึงกรอบระยะเวลาการก่อสร้าง วัสดุที่ใช้ การแบ่งชำระค่าจ้างเป็นงวด ตามความคืบหน้าของงาน มีเงื่อนไขการรับประกันงานก่อสร้าง และรายละเอียดอื่น ๆ ที่จำเป็น เช่น ถ้ามีการรับช่วงต่อในงานที่ผู้รับเหมาไม่ถนัด ก็ต้องระบุในสัญญาด้วย
4. มีผู้เชี่ยวชาญตรวจรับงาน
มีการรับงานเป็นระยะ โดยมีผู้เชี่ยวชาญอย่างสถาปนิกหรือวิศวกรร่วมตรวจงาน โดยเป็นบุคคลที่ไม่เกี่ยวกับบริษัทหรือผู้รับเหมา แต่ควรเป็นคนที่คุณหามาเองมาร่วมตรวจงาน หากมีอะไรที่ผิดจากที่เคยตกลงกันไว้ ต้องพร้อมแก้ไข และเมื่อตรวจสอบจนแน่ใจว่าได้บริษัทรับสร้างบ้างตามแบบ ที่กำหนดไว้สมบูรณ์แบบแล้ว จึงค่อยชำระเงินงวดสุดท้ายเป็นอันเสร็จสิ้นการส่งมอบงาน
สิ่งที่คุณจะได้รับเมื่อเลือกบริษัทรับสร้างบ้านที่มีคุณภาพ
1. มีเอกสารและหลักฐานที่น่าเชื่อได้
สัญญาจ้างที่มีการลงนามทั้งสองฝั่งถูกต้องนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการจ้างงานก่อสร้าง และมีผลทางกฎหมาย เพราะหากมีการตุกติกหรือหนีงานขึ้นมา ก็สามารถใช้สัญญาจ้างและหลักฐานฟ้องร้องเอาผิดต่อผู้รับเหมาได้
2. สามารถติดตามงานได้ตลอด
บริษัทสร้างบ้านที่สามารถติดตามความคืบหน้าของงาน การใช้วัสดุต่าง ๆ รวมถึงตรวจสอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างก่อสร้าง และสามารถติดต่อได้ตลอดเมื่อมีปัญหา จะทำให้คุณได้บ้านที่ตรงตามความต้องการ งบประมาณที่ไม่บานปลาย รวมถึงยังได้วัสดุที่มีคุณภาพ
3. สามารถแบ่งชำระได้ตามความคืบหน้าของงาน
ไม่ต้องกลัวผู้รับเหมาสร้างบ้านหนีหายหรือเทงานไปกับเงินก้อนที่ทำการชำระในครั้งเดียว เพราะบริษัทรับสร้างบ้านที่ดีและมีคุณภาพนั้นยินดีที่จะให้คุณแบ่งจ่ายตามความคืบหน้าของงาน เพื่อเป็นการแสดงความจริงใจในการทำงาน แถมการจ่ายเป็นงวดยังแบ่งเบาภาระทางการเงิน ไม่ต้องถอนเงินก้อนใหญ่ออกจากบัญชีของคุณด้วย
4. ลดปัญหาระหว่างและหลังการก่อสร้าง
เป็นเรื่องปกติที่จะมีปัญหาในการก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยไปถึงเรื่องใหญ่แต่ถ้าเลือกผู้รับเหมาก่อสร้างหรือบริษัทรับสร้างบ้านที่มีคุณภาพ หรือมีประสบการณ์ก็จะสามารถรับมือและหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งระหว่างการก่อสร้างและหลังส่งมอบงานให้คุณได้
หากคุณกำลังมีแผนที่จะต่อเติมหรือสร้างบ้าน และคิดจะหาบริษัทรับสร้างบ้านตามแบบ อย่ามองหาแต่บริษัทรับสร้างบ้านราคาถูกเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมองหามาตรฐานและคุณภาพที่ดีจากผู้รับเหมาเหล่านั้นด้วย เพราะเงินที่เสียไปทุกบาททุกสตางค์ในวันนี้จะกลายเป็นบ้านที่เรารักไปอีกหลายสิบปี