World Peace Café Health ทำไมต้องทำดีท็อกซ์

ทำไมต้องทำดีท็อกซ์

ทำไมต้องทำดีท็อกซ์ post thumbnail image

โดยทั่วไปแล้วคนเราจะต้องมีการขับถ่ายในทุกวันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ซึ่งการขับถ่ายอุจ จาระที่ดีนั้น ควรเป็นไปอย่างสะดวก สบาย และไม่ก่อให้เกิดความรู้สึกผิดปกติไม่ว่าจะพิจารณาในด้านกลิ่น สี หรือรูปร่าง ลักษณะของอุจจาระที่บ่งบอกถึงสุขภาพลำไส้และอาหารการกินที่ดีควรนิ่มแต่ทว่าจับตัวเป็นก้อน มีสีน้ำตาลอ่อน มีรูปร่างสม่ำเสมอตลอดลำ เคลื่อนออกจากลำไส้โดยง่าย ซึ่งบางครั้งหลายคนนั้นไม่ขับถ่ายเป็นเวลานั้น ทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง ท้องผูก ใส่อะไรก็ไม่มั่นใจเพราะพุงออก หากปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับคุณ เชื่อว่าคุณคงจะสนใจเรื่องการดีท็อกซ์ขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ วันนี้จะพาไปทำความรู้จักกับการดีท็อกซ์และเหตุผลว่าทำไมเราต้องดีท็อกซ์กันเลยดีกว่า

ดีท็อกซ์คืออะไร

ดีท็อกซ์ (Detox) คือคำที่ใช้เรียกการกำจัดสารพิษ สิ่งสกปรก ที่ตกค้างในร่างกายออกมา จริงๆ แล้วคำว่า Detox นั้นมาจากคำเต็มว่า Detoxification ที่มีความหมายว่าล้างพิษ การดีท็อกซ์นั้นสามารถทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็นการสวนล้างลำไส้ หรือการรับประทานผลิตภัณฑ์ที่ช่วยการดีท็อกซ์ก็ได้ 

ทำไมต้องกินดีท็อกซ์

กำจัดสารพิษออกจากร่างกาย

ร่างกายคนเราได้รับสารพิษมากมายไม่ว่าจะเป็นจากสิ่งแวดล้อม, สารปนเปื้อนต่างๆจากอาหาร หรือ มลภาวะ ซึ่งมันมีผลต่อระบบการเผาผลาญ, ระบบภูมิคุ้มกัน หรือ ภูมิต้านทาน เมื่อมันสะสมนานๆในเซลล์ หรือ เนื้อเยื่อในร่างกายก็จะสามารถทำให้เราอ่อนแอและเป็นโรคต่างๆได้

เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ดีขึ้น

บางครั้งภูมิคุ้มกันของเราก็ไม่ได้แข็งแรงเสมอไป บางครั้งอาจจะถูกก่อกวนด้วยไวรัส หรือ ไข้หวัดต่างๆซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของเรา การที่เราทำดีท็อกซ์เป็นประจำจะช่วยสร้างภูมิต้านทานของเราให้แข็งแกร่งขึ้น และ ช่วยต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ

ป้องกันโรคเรื้อรัง

มลภาวะจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเราก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็ง หรือ โรคเรื้อรังได้ ดังนั้นร่างกายของเราจึงสร้างระบบดีท็อกซ์ขึ้นมาเพื่อที่มากำจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกายของเรา แต่ด้วยความที่ว่าสารพิษเหล่านี้มันมีมากเกินไปจนบางทีร่างกายของเรารับไม่ไหว ดังนั้นเราจึงต้องดีท็อกซ์เพื่อช่วยร่างกายของเรากำจัดสิ่งแปลกปลอมออกจากร่างกาย

ทำให้ดูอ่อนวัย

การดีท็อกซ์จะช่วยเพิ่มการดูดซึมของสารอาหารในร่างกายได้ดีขึ้น รวมไปถึงสารต้านอนุมูลอิสระ และ วิตามินที่ช่วยต่อสู้กับภาวะเครียดที่เกิดจากออกซิเดชั่น เมื่อร่างกายของคุณมีระบบขับถ่ายของเสียที่ดี ร่างกายก็จะมีระบบการทำงานภายในที่สะอาด ไม่มีสิ่งตกค้างภายในร่างกาย สุขภาพผิวจึงดีตามมาด้วย

รู้อย่างนี้แล้วแนะนำให้ลองดีท็อกซ์ลำไส้บ้างนะ คุณสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ดีท็อกซ์ได้ที่ Lazada มีหลายยี่ห้อหลายสูตร ที่คุณสามารถเปรียบเทียบราคาและเลือกซื้อด้วยตนเองได้ไม่ต้องกังวลว่าจะได้ของปลิมเลย 

Related Post

รักษาต้อกระจก ทำอย่างไรรักษาต้อกระจก ทำอย่างไร

อาจจะกล่าวได้ว่าการรักษาต้อกระจกนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำ เพราะหากว่าปล่อยไว้จะส่งผลให้เกิดปัญหาได้หลายต่อหลายด้าน อย่างไรก็ดีสิ่งที่หลายๆ คนควรรู้เกี่ยวกับการรักษาต้อกระจกมีอะไรบ้าง มาดูพร้อมๆ กัน  เรื่องของการผ่าตัดรักษาแบบต้อกระจก  สำหรับปัจจุบันนี้เลนส์สำหรับใส่ในการรักษาต้อกระจก หรือสลายต้อจะเป็นเลนส์เทียม และสามารถที่จะพับได้ และสามารถใส่เลนส์ผ่านแผลขนาดเล็กที่กระจกตาหลังสลายต้อกระจก โดยเลนส์แก้วตาเทียมเองก็มีหลายชนิดอีกด้วย ชนิดหลักๆ คือระยะเดียวกันกับชัดหลายระยะ  หรือบางครั้งแพทย์อาจจะเลือกเลนส์ชัดระยะเดียว เหมาะกับการที่เลือกให้ชัดที่ไกลๆ และมองใกล้ๆ ก็ต้องใส่แว่นอ่านหนังสือ  เลนส์ชัดระยะหลายระยะ โดยที่หลังผ่าตัดเองก็สามารถมองเห็นได้ในหลายๆ ระยะด้วยตาเปล่า และลดการใส่แว่นเพื่อมองระยะต่างๆ ได้ ในขณะที่เลนส์ชัด 2 ระยะนั้น สามารถเลือกได้ว่าจะชัดที่ไกลหรือไกล และไกลหรือกลาง หรือในกรณีที่คนป่วยเป็นโรคสายตาเอียงด้วย แพทย์จะมีการแนะนำให้เลือกเลนส์แก้ตาเอียง

หูฟัง คนหูหนวก

แนะนำ เครื่องช่วยฟัง หูฟัง คนหูหนวก จาก Lantexแนะนำ เครื่องช่วยฟัง หูฟัง คนหูหนวก จาก Lantex

คนหูหนวก หูตึง หรือผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินนั้นไม่สามารถรักษาให้กลับมาได้ยินตามปกติได้ จึงมีการคิดค้นวิธีทางเลือกที่จะช่วยให้สามารถกลับมาได้ยินได้ ไม่ว่าจะเป็น การใช้เครื่องช่วยฟัง หรือที่เราเข้าใจกันว่าเป็น หูฟัง คนหูหนวก นั่นเอง หรือจะเป็นการผ่าตัดเพื่อฝังประสาทหูเทียม ทั้งสองต่างก็เป็นวิธีในการใช้อุปกรณ์เพื่อทำให้เราสามารถได้ยินได้ โดยในปัจจุบันก็มีแบรนด์หูฟังหรือเครื่องช่วยฟังที่มีคุณภาพดีเยี่ยมจัดจำหน่ายตามช่องทางที่เพิ่มความสะดวกให้อย่างมากมาย Lantex หนึ่งในแบรนด์ หูฟัง คนหูหนวก ที่ได้รับการยอมรับก็เป็นแบรนด์ที่ไม่ควรมองข้าม หูฟัง คนหูหนวก รุ่นแรกเป็นหูฟังประเภทคล้องหูที่มาพร้อมกับระบบการทำงานแบบอนาล็อกและใช้พลังงานจากถ่านในการทำงาน ซึ่งถ่านสามารถใช้งานได้ 5-7 วัน มีกำลังขยายเสียง 56-70 เดซิเบลจึงเหมาะกับผู้ที่สูญเสียการได้ยินในระดับเริ่มต้นไปจนถึงมาก มีปุ่มที่สามารถปรับระดับเสียงให้มีความดังเบาได้ตามความต้องการของผู้ใช้งาน ถึง 4

การดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง

การดูแลคนป่วย แม้ว่าจะเป็นการป่วยแบบชั่วคราวหรือชั่วพักชั่วครู่นั้น ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ต้องใช้พลังกายและใจอย่างยิ่ง และหากว่าใครที่ไม่มีหลักการในการดูแลด้วยแล้วนั้น ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นก็คือความเครียดนั่นเอง บางคนมีญาติพี่น้องมาคอยให้คำแนะนำ บ้างก็ให้กินแต่สมุนไพร บ้างก็ให้รักษาทางการแพทย์สมัยใหม่ไปจนสุดทาง โดยลืมไปว่าความต้องการของคนป่วยอย่างแท้จริงคืออะไรกันแน่ มาดูพร้อมกันดีกว่าว่าการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคองคืออะไรกันแน่ เรื่องอะไรที่เราควรจะรู้บ้าง  1.หลักคิดในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง  สิ่งที่สำคัญมากในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายก็คือการที่เราพยายามดูแลได้อย่างเหมาะสมในทุกๆ แง่มุม เช่น หากว่าผู้ป่วยเกิดอาการเจ็บปวดก็ให้พยายามดูแลจนหายจากอาการเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี ยิ่งหากว่าเป็นผู้ป่วยมะเร็งด้วยแล้วนั้น มักจะมีอาการปวดบ่อยครั้ง ในตามจุดต่างๆ บางครั้งยาธรรมดาก็ไม่สามารถรักษาอาการปวดได้ ทว่าต้องใช้มอร์ฟีน ในกรณีนี้แล้ว เราไม่ควรที่จะห้ามผู้ป่วยไม่ให้ใช้มอร์ฟีนเพราะกลัวว่าจะติดยาเสพติด เพราะผู้ป่วยอาจจะต้องฝืนทนทรมานกับอาการป่วยจนรู้สึกแย่ และไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่ออีกวินาทีเดียวเลยก็ว่าได้ การให้ผู้ป่วยได้กินยา หรือฉีดยาบรรเทาอาการป่วยตามที่ต้องการ จะทำให้เกิดความรู้สึกที่ดีกว่าเดิม และรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย  2.ชีวิตไม่สามารถยื้อได้แม้แต่วันเดียว